หน้าที่การทำงานของชิ้นส่วนสำคัญในระบบแอร์รถยนต์

  การทำงานของระบบปรับอากาศในรถยนต์

          เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานก็จะทำการดูดน้ำยาแอร์ที่มีสภาพเป็นก๊าซเข้ามาอัดความดัน  และอุณหภูมิให้สูงขึ้นจากนั้น ส่งไปตามท่อทางออกของคอมเพรสเซอร์เข้าสู่คอยล์ร้อน ที่แผงคอยล์ร้อน จะทำหน้าที่ระบายความร้อนของก๊าซเหล่านี้ออกไปตามครีบระบายความร้อน จนกระทั่งก๊าซเหล่านี้จะกลายเป็นของเหลวที่มีความดันสูงไหลออกจากคอยล์ร้อนผ่านท่อทางออกไปเข้าสู่ถังพักน้ำยาแอร์ เพื่อกรองสิ่งแปลกปลอม และดูดความชื้นไปด้วยขณะนี้น้ำยาแอร์ มีสภาพ เป็นของเหลว และความดันสูง ไหลออกจาก ถังพักน้ำยาแอร์ ไปตามท่อเข้าสู่วาล์วปรับความดัน  วาล์วปรับความดัน จะลดความดันของน้ำยาแอร์ลงมา ทำให้อุณหภูมิของน้ำยาแอร์ ลดต่ำลงอย่างมาก เพื่อป้อนเข้าสู่คอยล์เย็น ของเหลวความดันต่ำ อุณหภูมิต่ำไหลเข้าสู่คอยล์เย็นก็จะทำการดูดซับความร้อนที่บริเวณรอบๆ ตัวซึ่งพัดลม (Blower)   ก็จะทำหน้าที่ดูดอากาศในห้องโดยสารผ่านแผงคอยล์เย็น  ผ่านทางท่อลมจนออกไปจากช่องปรับอากาศ ด้านหน้าคอนโซล อากาศร้อนในห้องโดยสาร จะถูกดูดซับออกไปด้วยวิธีนี้
          ทางด้านน้ำยาแอร์ ก็จะทำการดูดซับความร้อนวนเวียนอยู่ตามท่อทางเดิน ที่ขดไปมาบนแผงคอยล์เย็น จนแปรสภาพกลายเป็นก๊าซ ไหลออกจากคอยล์เย็นไปตามท่อ เข้าสู่คอมเพรสเซอร์อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นกระบวนการอัดความดันของน้ำยาแอร์ใหม่อีกรอบ เหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดวนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าคอมเพรสเซอร์ จะหยุดการทำงาน

 คอมเพรสเซอร์ (Compressor)

         คืออุปกรณ์ส่วนที่ทำหน้าที่เพิ่มความดันของน้ำยาแอร์ในระบบให้สูงขึ้นเพื่อส่งต่อไปให้กับคอยล์ร้อนของคอมเพรสเซอร์ที่ใช้กับรถยนต์อาจพบได้  2 แบบคือ แบบลูกสูบ(PistonCompressor)และแบบ โรตารี่(RotaryCompressor)  ซึ่งรถยนต์ปัจจุบันส่วนมากใช้คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่  คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ ติดตั้งอยู่บริเวณเครื่องยนต์จะทำงานได้ต่อเมื่อได้รับแรงหมุนจากเครื่องยนต์ผ่านมาทางสาย พานคล้องไว้กับพูลเล่ย์ และยังมีคลัทช์แม่เหล็กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพูลเล่ย์อยู่บนแกนกลางเพลาหมุนของคอมเพรสเซอร์ กรณีที่เครื่องยนต์หมุน แรงหมุนของเครื่องยนต์จะถูกส่งผ่านสายพานมาหมุนพูลเล่ย์ แต่คอมเพรสเซอร์ยังไม่ได้ทำงาน เมื่อเราเปิดสวิตช์แอร์ในห้องโดยสารไปยังตำแหน่ง"ON" กระแสไฟจากแบตเตอรี่จะไปทำให้คลัทช์แม่เหล็กดูดยึดติดกับพูลเล่ย์จึงส่งผลให้แกนเพลาหมุนของคอมเพรสเซอร์ไปจับยึดติดกับพูลเล่ย์
จากจุดนี้ทำให้คอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารเริ่มเย็นลงตามที่ต้องการแล้วเซนเซอร์ควบคุมอุณหภูมิ  (Thermostat)  จะทำงานโดยไปตัดสวิตช์ส่ง ผ่านไฟฟ้าที่คลัทช์แม่เหล็กทำให้คลัทช์แม่เหล็กกับพูลเล่ย์แยกจากกันคอมเพรสเซอร์จึงหยุดทำงาน    แต่ในกรณีที่เราปิดสวิตช์แอร์ในห้องโดยสารก็คือการทำให้คลัทช์แม่เหล็กนี้แยกจากพูลเล่ย์นั่นเอง

 คอยล์ร้อน (Condenser)

        มีลักษณะเป็นแผงรับอากาศขนาดพอๆกับหม้อน้ำรถยนต์มีทางเข้า   และทางออกของน้ำยาแอร์ถูกออกแบบมาให้มีท่อน้ำยาแอร์ขดไปมาบนแผงดังกล่าวผ่านครีบระบายความร้อนซึ่งมีลักษณะคล้ายครีบระบายความร้อนของหม้อน้ำ คอยล์ร้อนจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ารถยนต์คู่กับหม้อน้ำและมีพัดลมไฟฟ้าช่วยระบายความร้อน

 ถังพักน้ำยา-กรองและดูดความชี้น (Filter-Dryer Receiver)

         มีลักษณะเป็นทรงกระบอกไม่ใหญ่มากติดตั้งอยู่บริเวณใกล้กับแผงคอยล์ร้อนด้านบนของถังพักน้ำยาจะมีกระจกใสสามารถมองเห็นน้ำยาแอร์ได้ และจะมีท่อน้ำยาแอร์ที่มาจากคอยล์ร้อน    ต่อเข้ามาที่รูทางเข้าของถังพักน้ำยาแอร์นี้  และจะต่อท่อน้ำยาแอร์ออกจาก ถังพักน้ำยาแอร์ ไปสู่วาล์วปรับความดัน  เราสามารถตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์ในระบบได้จากการมองทะลุไปที่กระจกใสด้านบนของถังพักน้ำยาแอร์ตอนที่คอมเพรสเซอร์ทำงานไปสักพักหนึ่ง ถ้าพบว่ามีฟองอากาศในถังพักน้ำยาแอร์อยู่มาก แสดงว่า มีน้ำยาแอร์อยู่ใน ระบบน้อย แต่ถ้าไม่เห็นเป็นฟองอากาศ และมีลักษณะน้ำหยดอยู่ แสดงว่า มีน้ำยาแอร์อยู่ในระบบในปริมาณพอดี

 วาวล์แอร์ (Expansion Valve)

         ทำหน้าที่ลดความดันน้ำยาแอร์ให้ต่ำลงมาเมื่อน้ำยาแอร์มีความดันต่ำก็จะทำให้อุณหภูมิของน้ำยาแอร์ต่ำลงมาด้วย จากนั้นก็จะส่งผ่านน้ำยาแอร์เข้าไปสู่คอยล์เย็นต่อไป
  
 คอยล์เย็น (Evaporator)

          มีลักษณะเป็นแผง และมีท่อโลหะขดไปขดมา เรียงตัวอยู่ภายในแผง   และมีครีบระบายความเย็น เรียงตัวกันคล้าย กับคอยล์ร้อน แต่ขนาดอาจแตกต่างกัน ที่ด้านหลังจะมีพัดลม (Blower)  คอยดูดเอาอากาศในห้องโดยสาร ให้ผ่านตัวคอยล์เย็น วิ่งไปตามท่อทางอากาศไปออกที่บริเวณ ช่องระบายแอร์ ที่อยู่บนคอนโซลรถยนต์ ที่คอยเย็นจะมีเทอร์โมสตัท ติดอยู่เพื่อตรวจสอบ และควบคุมอุณหภูมิ โดยผ่านทางสวิทช์ปรับระดับความเย็น ที่บนแผงคอนโซลแอร์ เลือกความเย็นได้หลายระดับ) อีกทั้ง   พัดลมดูดอากาศ ที่อยู่หลังคอยล์เย็น ก็สามารถ ปรับขนาด ความเร็ว ของการหมุน ได้อีกด้วย โดยผ่านทางสวิทช์ควบคุมความแรงของลมบนแผงคอนโซลเช่นกันอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณ ใกล้ๆ กับคอยล์เย็นที่เราเรียกว่าตู้แอร์   จะเป็นตู้สำเร็จรูปติดตั้งโดยยึดติดกับโครงรถบริเวณใต้คอนโซลหน้าปัดรถ พร้อมทั้งยังมีท่อน้ำทิ้ง ต่อออกจากตู้แอร์ ไปนอกตัวรถ เพราะบางสถานะการ ความเย็นที่บริเวณ คอยล์เย็น รวมตัวกันเกาะเป็นน้ำแข็ง แล้วหยดเป็นน้ำ จึงถูกขับถ่าย ไปตามท่อน้ำทิ้งของตู้แอร์

  น้ำยาแอร์ (Refrigerant)

          คือสารให้ความเย็น สารชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการดูดซับ ความร้อนรอบข้าง เข้ามาอยู่ในตัวของมัน ทำให้อากาศ บริเวณรอบข้างมีอุณหภูมิต่ำลงน้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์จะใช้สาร FreonR12  สารชนิดนี้เมื่อผ่านกระบวนการทำให้ เป็นของเหลวและทำให้ความดันต่ำแล้วจะดูดซับความร้อนได้ดี ต่อมา มีการรณรงค์ เรื่องการต่อต้านการใช้สาร CFC เพราะจะไปทำลายชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งจะเป็นอันตราย ต่อโลกในระยะยาว และน้ำยา Freon R-12 ก็เป็นสารประเภทนี้ด้วย ดังนั้นต่อมาผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จึงหันมาใช้น้ำยาแอร์สูตรใหม่ คือ Freon R-134a กับรถยนต์ รุ่นใหม่ๆ ที่ถูกผลิตออกมา